การอภิปรายเรื่องสิขาบทเล็กน้อย
การอภิปรายเรื่องสิกขาบทเล็กน้อย เสถียร โพธินันทะ กล่าวว่า ในปฐมสังคายนาครั้งนั้น พระอานนท์ได้กล่าวในที่ประชุมสงฆ์ถึงพระพุทธานุญาต ข้อที่ให้สงห์ถอนสิกขาบทเล็กน้อยได้ ที่ประชุมได้ถามพระอานนท์ว่า ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาค ถึงสิขาบทเล็กๆ น้อยๆ คืออะไร พระอานนท์ตอบว่า มิได้ทูลถาม เกิดปัญหาในที่ประชุมเพราะในที่ประชุมมีความคิดเห็นต่างๆ นานา พระเถระบางพวก ก็ว่าเว้นปาราชิก ๔ เสียที่เหลือจัดเป็นสิกขาบทเล็กน้อย บางพวกว่ายกเว้นปาราชิก สังฆาทิเสส ๑๓ อนิยต ๒ เสียที่เหลือจัดเป็นสิกขาบทเล็กน้อย บ้างก็ว่าเว้นปาราชิก สังฆาทิเสส ๑๓ อนิยต ๒ และนิสสัคคียปาจิตตีย์ ๓๐ เสียที่เหลือจัดเป็นสิกขาบทเล็กน้อย บ้างก็ว่าเติมปาจิตตีย์ ๙๒ เสีย ที่เหลือจัดเป็นสิกขาบทเล็กน้อย บ้างก็ว่าเติมปาฎิเทสนียะ ๔ ลงไปอีก ที่เหลือจัดเป็นสิกขาบทเล็กน้อย
เมื่อมติที่ประชุมมีความเห็นแตกต่างกันอย่างนี้ พระมหากัสสปเถระจึงได้กล่าวขึ้นว่าดูก่อนอาวุโส ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สิกขาบททั้งหลายของพวกเรา ที่บ่งถึงคฤหัสถ์ก็มีอยู่แม้พวกคฤหัสถ์ก็ย่อมรู้ว่า นี้ควรแก่ท่านทั้งหลายผู้เป็นสมณศากยบุตร นี้ไม่ควรแก่ท่านทั้งหลาย ดังนี้ ถ้าพวกเราจักพร้อมกันถอนสิกขาบทเล็กๆ น้อยๆ ไซร์ ก็จักมีผู้กล่าวว่าพระสมณโคดมทรงบัญญัติสิกขาบท เพื่อเหล่าสาวกชั่วกาลแห่งควันไฟ พระศาสดาของสาวกเหล่านี้ ได้ดำรงอยู่แล้วเพียงใด สาวกเหล่านี้ก็ศึกษาแล้วในสิกขาบททั้งหลายเพียงนั้น
เพราะพระศาสดาของสาวกเหล่านี้ปรินิพานแล้ว
บัดนี้เหล่าสาวกจึงไม่ศึกษาในสิกขาบททั้งหลาย ก็ถ้าความพรั่งพร้อมของสงฆ์ถึงที่แล้วไซร็ สงฆ์พึงไม่บัญญัติสิกขาบทที่ยังมิได้ทรงบัญญัติ พึงไม่ตัดทอนสิกขาบทที่ทรงบัญญัติแล้วพึงสมาทานประพฤติในสิกขาบทตามที่ทรงบัญญัติไว้นี้เป็นบัญญัติ ฯลฯ ท่านผู้ใดเห็นว่าสมควรท่านผู้นั้นพึงนิ่งเฉย ท่านผู้ใดเห็นว่าไม่ควร ท่านผู้นั้นพึงพูดขึ้น
เมื่อสิ้นกระแสประกาศของพระมหากัสสปเถระแล้ว ปรากฎว่าที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันด้วยดี จึงเป็นอันถือว่านับตั้งแต่กาลบัดนั้นเป็นต้นไป สงฆ์ ( เฉพาะฝ่ายเห็นด้วยกับพระมหากัสสปเถระ ) จะไม่ถอนสิกขาบทแม้เล็กน้อยเลย คณะสงฆ์คณะนี้จีงได้ปรากฎนามสืบต่อมาว่าคณะเถรวาท หรือสถิรวาท หรืออีกนัยหนึ่งเรียกว่า วินัยวาที ก็เรียกได้ เพราะถือตามมติของพระเถรานุเถระอันมีพระมหากัสสปเถระเป็นประมุข
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น